“คล็อปป์” ตำหนิแข้งลิเวอร์พูลไม่มีใครช่วย เทรนท์ รับมือกับ “มิโตมะ”
เจอร์เก้น คล็อปป์ ที่ปรึกษาของ ลิเวอร์พูล เห็นว่า เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ได้รับความช่วยเหลือ
จากเพื่อนร่วมทีมน้อยเกินไป ในการต้องรับมือกับ คาโอรุ มิโตมะ ปีกตัวจี๊ดของ ไบรท์ตัน
เกมเมื่อคืนที่ผ่านมา ลิเวอร์พูล ต้องจาดป้ายในศึกเอฟเอ คัพ ไว้เพียงแค่รอบที่ 4 หลังบุกไปแพ้ให้กับ ไบรท์ตัน 1-2 โดยที่ในเกมนี้หนึ่งนักเตะ
ที่ทำผลงานได้ อย่างดีที่สุด คงหนีไม่พ้น มิโตมะ ที่นอกเหนือจากที่จะ
ยิงประตูชัย ในช่วงทดเวลา บาดเจ็บแล้ว แข้งคนญี่ปุ่น ยังทำหน้าที่ปั่นป่วนเกมรับฝั่งขวา ของลิเวอร์พูลได้ตลอดทั้งเกม
หลังจบเกม คล็อปป์ ได้ให้สัมภาษณ์ หลังเกมว่า อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ได้รับการสนับสนุน จากเพื่อนร่วมทีมน้อยเกินไป ต่างกันทางฝั่งของ แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน ที่มักมีเพื่อนคอยมาซ้อนอยู่ตลอด
“ฝั่งซ้ายร็อบ โบ้ยังโอเค เนื่องจากพวกเราช่วยเขา แต่อีกฝั่งหนึ่ง เทรนท์ ไม่ได้รับการช่วยเหลือมากนัก”
“มิโตมะ เล่นดีมาก ดังนั้น มันก็เลยเป็นงานหนัก
เราสามารถป้องกัน ทั้งสองประตูที่เสีย ได้ดีมากยิ่งกว่านี้ ลูกแรกมันแฉลบก็จริง แต่เราคงจะบล็อคลูกยิงได้”
“มันไม่ใช่ความรู้สึกที่ดี เมื่อเวลาผ่านไปพวกเราอาจเห็นข้อดีบ้าง แต่เราต้องการเข้ารอบ ยังไงก็ต้องขอ แสดงความยินดีกับ ไบรท์ตัน ด้วย”
ยิ่งไปกว่านี้ ยังมีสถิติ ออกมาอีกว่า มิโตมะ เลี้ยงผ่านผู้เล่น ลิเวอร์พูลได้ถึง 10 ครั้งในซีซั่นนี้รวม ทุกรายการ ซึ่งมากกว่านักเตะคนอื่น ๆ ในลีก รวมทั้งจำนวนครึ่งหนึ่งคือากรเลี้ยงผ่าน เทรนท์
รู้จัก “มิโตมะ” เจ้าชายแห่งคานางาวะ ผู้ปลิดชีพเครื่องจักร สีแดงน้ำตาหล่น
ยังช็อกตาตั้ง ไม่หายกับเกม ช่วงค่ำเมื่อวันอาทิตย์ที่ ที่ผ่านมา กับเกมรอบ 4 ฟุตบอลถ้วย ที่เก่าแก่ที่สุดแห่งเมืองผู้ดีอังกฤษ “เอฟเอ คัพ”
เพราะว่าแชมป์เก่า ลิเวอร์พูล บุกไปแพ้ ไบรท์ตัน 1-2 แถมโดนประตูช่วงนาทีบาปทดเจ็บท้ายเกมอีก
เรียกได้ว่า เด็กหงส์ทุก หมู่เหล่าใน ดินแดนสยามเมืองยิ้ม คงรู้สึกกระอัก เลือดตาแทบจะกระเด็น เนื่องจาก
เกมมีทีท่าจะจบด้วยผลเสมอ และไปรีเพลย์ กันใหม่ที่แอนฟิลด์ แต่มิวายถูกนักเตะชาวอาทิตย์อุทัยอย่าง คาโอรุ มิโตมะ โชว์เทคนิคอันเลือดเย็นซัดประตูชัย
ดาวเตะสาย เลือดซามูไรวัย 25 ปี กลายเป็นที่รู้จัก แก่บรรดาแฟนบอลลิเวอร์พูล มากขึ้นไปอีก หากแม้ก่อนหน้านี้จะรู้จักกันพอสังเขปอย่างดีอยู่แล้ว
ว่าแข้งประเทศญี่ปุ่น รายนี้ฝีเท้าช่างจัดจ้านอีกทั้งสปีดต้น ความเร็วสายฟ้า ความกระปรี้กระเปร่าที่พลิ้วไหวสูงเหลือเกิน
ถ้าหากไม่เชื่อลองไปถาม เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ดูได้ !
เพียงแต่ ฤดูกาลแรก ในพรีเมียร์ลีกของ มิโตมะสามารถปรับตัวได้ไวกับสไตล์บอลอังกฤษ โชว์ผลงานฉลาดหลักแหลมไม่เกรงกลัวใคร
งัดความสามารถศาสตร์ ลูกหนังในตัวออกมาหมดเปลือก นี่คือความเป็นใจนักสู้ เลือดประเทศญี่ปุ่นขนานแท้ในวงการฟุตบอล กระทั่งเป็นที่ยอมรับไปทั่วทั้งโลก
คาโอรุ มิโตมะเป็นที่รู้จักของแฟนบอล ชาวไทยนับตั้งแต่ Siamsport ได้ซื้อลิขสิทธิ์ ถ่ายทอดสด ฟุตบอล เจลีก ประเทศญี่ปุ่น
แล้วก็ถ่ายคู่ที่คาวาซากิ ฟรอนตาเล่ ลงสนามอยู่บ่อยครั้ง และด้วยฟอร์มที่โดดเด่น เหลือเกินของเขา ทำให้เป็นที่รู้จักได้ไม่ยากเลย
“มิโตมะ” เกิดที่ “คาวาซากิ” นครที่อยู่ในจังหวัด คานางาวะ ประเทศญี่ปุ่น เมื่อวันที่ 20 เดือนพฤษภาคมปี 1997 รวมทั้งเริ่มเข้าสู่เส้นทางฟุตบอลอคาเดมี่กับ ซากินุมะ เอสซี และก็ ถูกคาวาซากิ ฟรอนตาเล่ ดึงตัวมาในช่วงอายุ 10 ขวบ และก็อยู่สโมสรมาตั้งแต่ปี 2007-2015
กระทั่งปี 2016 มิโตมะได้เข้าไปเรียน ที่มหาวิทยาลัย ทสึคุบะ ในจังหวัดอิบารากิ ซึ่งเป็นสถาบัน นอกเหนือจากการศึกษาแล้ว ยังเป็นมหาวิทยาลัย ฟุตบอลชั้น นำของประเทศญี่ปุ่นด้วย ก่อนที่จะจบการศึกษา ในปี 2019 มิโตมะได้ทำวิทยานิพนธ์ เกี่ยวกับการเลี้ยงลูก ฟุตบอลด้วย เรียกได้ว่าเอาจริง เอาจังกับเรื่องฟุตบอล เหลือเกิน
หลังจาก สำเร็จการศึกษา มิโตมะได้เดบิวต์ลีก สูงสุดของประเทศญี่ปุ่นเป็นครั้งแรก โดยการคัมแบ็ก เล่นให้กับคาวาซากิ ฟรอนตาเล่ ในปี 2020 แล้วก็เพียงแต่ปีเดียว เขาได้จารึก ชื่อกับพรรคพวก “โลมามหากาฬ” ด้วยการคว้าแชมป์เจลีก 2020 ทันที โดยมิโตมะ ลงสนามไป 30 นัด ยิง 13 ประตู กับ 13 แอสซิสต์
เท่านั้น ไม่พอในปีเดียวกันยังมีส่วนช่วยพาทีมคว้าดับเบิ้ลแชมป์อีกถ้วยคือ “เอ็มเพอเรอร์ คัพ” จึงทำให้มิโตมะ มีชื่อติดทีมเหมาะสมที่สุดเจลีก ประเทศญี่ปุ่น ปี 2020 โดยฝากผลงานลงสนามในซีซั่น 2020 รวมทุกรายการไปทั้งหมด 37 นัด ยิงไป 18 ประตู กับ 14 แอสซิสต์
แชมป์สุดท้ายของมิโตมะ กับฟรอนตาเล่
คือการคว้าถ้วยฟุตบอล “ฟูจิ ซีร็อกซ์ ซูเปอร์คัพ 2021” หรือศึกแชมป์ชนแชมป์ กระทั่งวันที่ 11 สิงหาคมปี 2021 สโมสรไบรท์ตัน แอนด์ โฮฟ อัลเบี้ยน ทีมในพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ตัดสินใจคว้าตัว “มิโตะมะ” เข้ามาร่วมทีมด้วยสัญญาระยะยาว 4 ปี
โดยขุนพล “นกนางนวล” ถูกส่งไปเล่นลีกดิวิชั่น 2 ของเบลเยียมกับ รอยัล ยูเนียน แซงต์-จิลอยส์ ในสัญญายืมตัวตลอดฤดูกาล 2021-22 เพื่อปรับตัวเข้ากับฟุตบอลยุโรป ก่อนที่จะฝากผลงานลงสนาม 21 นัด ยิงไป 5 ประตู กับ 4 แอสซิสต์
ด้วยฟอร์ม อันดี ไบรท์ตัน จึงได้จัดการดึงตัว กับสู่ต้นสังกัดบู๊ศึก พรีเมียร์ลีก ในฤดูกาล 2022-23 ทันที จนกระทั่งตอนนี้ เขาลงเล่นในพรีเมียร์ลีก ไปแล้ว 14 นัด ทำไป 4 ลูก กับ 1 แอสซิสต์ แถมยิงครบ ทุกรายการทั้ง ฟุตบอลถ้วยคาราบาว คัพ (3 นัด 1 ลูก) แล้วก็เอฟเอ คัพ (2 นัด 1 ประตู 1 แอสซิสต์) 1 ตุงที่ยิงได้ก็มา จากการยิงใส่ “หงส์แดง” นั่นเอง